30 มีนาคม 2020

ทำความรู้จักวัคซีนไข้หวัดใหญ่

โรคไข้หวัดใหญ่ หรือ Influenza เป็นโรคที่มีการแพร่ระบาดในทุกปี และสามารถติดต่อได้ง่าย จากน้ำมูก น้ำลาย เสมหะของผู้ป่วย ผ่านการไอ จาม หรือการหายใจ โดยมีเชื้อก่อโรค คือ ไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza virus) ซึ่งมีอยู่ 3 สายพันธุ์ ได้แก่ A , B และ C ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A แยกเป็นสายพันธุ์ย่อย ๆ ได้อีกมากมาย เช่น A(H1N1) A(H3N2) เป็นต้น สามารถก่อโรคได้ทั้งในคนและสัตว์ มีอาการรุนแรง และการแพร่ระบาดเกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง ส่วนสายพันธุ์ B และ C ก่อโรคเฉพาะในคนเท่านั้น อาการแสดงของโรคไข้หวัดใหญ่จะมีอาการไข้สูง 38 – 41oC ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เจ็บคอ คัดจมูก น้ำมูกไหล ในรายที่มีอาการรุนแรงอาจมีการหอบเหนื่อย หายใจมีเสียงหวีด และ/หรือหัวใจล้มเหลวได้

วิธีป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ที่ดีที่สุด คือ การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย ด้วยการฉีดวัคซีน ซึ่งวัคซีนที่ให้บริการในปัจจุบันเป็นวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิด 3 สายพันธุ์จะครอบคลุมเชื้อไวรัสสายพันธุ์ A(H1N1) A(H3N2) และ B โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการฉีดวัคซีน คือก่อนฤดูการระบาด (ฤดูฝนและฤดูหนาว) ปีละ 1 เข็ม ซึ่งจะสามารถป้องกันโรคได้คลอบคลุมเป็นเวลา 1 ปี จึงควรรับอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ บุคลากรทางสาธารณสุขและผู้ทำลายสัตว์ปีก ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป เด็กอายุ 6 เดือนถึง 2 ปี บุคคลโรคอ้วน และผู้พิการทางสมองที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ สามารถขอรับวัคซีนได้ฟรีตามโรงพยาบาลของรัฐ หรือสถานบริการสาธารณสุขทั่วประเทศ และประชาชนทั่วไปสามารถรับบริการวัคซีนได้โดยเสียค่าใช้จ่ายไม่เกินเข็มละ 1,000 บาท

มาฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ประจำปี เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย และลดการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่กันเถอะ!!

เครดิตภาพ : thaihealth