Pfizer ขยับ! แถลงผลความคืบหน้าการทดสอบวัคซีนโควิด แจงข้อมูลเบื้องต้นวัคซีนมีแนวโน้มแสดงประสิทธิภาพการป้องกันโรคกว่าร้อยละ 90

Home   >   ข่าวสาร   >   บทความและจดหมายข่าว   >   Pfizer ขยับ! แถลงผลความคืบหน้าการทดสอบวัคซีนโควิด แจงข้อมูลเบื้องต้นวัคซีนมีแนวโน้มแสดงประสิทธิภาพการป้องกันโรคกว่าร้อยละ 90

👁️ เข้าชม 0

📌Hot News – ข่าวเด่นประเด็นร้อน
Pfizer ขยับ! แถลงผลความคืบหน้าการทดสอบวัคซีนโควิด แจงข้อมูลเบื้องต้นวัคซีนมีแนวโน้มแสดงประสิทธิภาพการป้องกันโรคกว่าร้อยละ 90
.
เมื่อวันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา บริษัทไฟเซอร์ จำกัด ผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่สัญชาติอเมริกา ร่วมกับบริษัท ไบโอเอ็นเทค เยอรมนี ตั้งโต๊ะแถลงข่าวรายงานความคืบหน้าในการทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ภายใต้ชื่อ “BNT162b2” ที่กำลังดำเนินการทดสอบระยะที่ 3 ในกลุ่มอาสาสมัครจำนวน 43,538 คน ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฏาคมที่ผ่านมา ขณะนี้มีอาสาสมัครได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 แล้วจำนวน 38,955 คน ซึ่งถือเป็นร้อยละ 89 ของจำนวนอาสาสมัครทั้งหมด (ข้อมูล ณ วันที่ 8 พฤศจิกายน 2563)
.
ในการแถลงข่าวครั้งนี้ บริษัทฯ ได้รายงานผลการประเมินประสิทธิภาพในการป้องกันโรคของวัคซีนในกลุ่มอาสามัคร โดยพบว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคมากกว่าร้อยละ 90 ในกลุ่มอาสาสมัครที่ไม่เคยสัมผัสหรือติดเชื้อ SARS-Cov-2 มาก่อน อีกทั้งวัคซีนมีความปลอดภัย โดยไม่พบอาการข้างเคียงที่รุนแรงในกลุ่มอาสาสมัครที่ได้รับการฉีดวัคซีน
.
ทั้งนี้ ผลการประเมินประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 ข้างต้นเป็นการประเมินจากการศึกษาในอาสาสมัคร 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ได้รับวัคซีน (vaccinated) และกลุ่มที่ได้รับยาหลอก (Placebo) ซึ่งการประเมินระดับภูมิคุ้มกันในการป้องกันโรคเป็นการประเมิน 7 วัน ภายหลังจากอาสาสมัครได้รับวัคซีนครบจำนวน 2 เข็ม (Day 0, 21) หรือ 28 วันหลังจากที่ได้รับวัคซีนเข็มแรก (ประเมินจากจากจำนวนผู้ติดเชื้อจำนวนทั้งหมด 94 ราย ใน trials)
.
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ กล่าวว่า การทดสอบดังกล่าวยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด เนื่องจากการประเมินประสิทธิภาพในการป้องกันโรคของวัคซีนจะต้องประเมินจากข้อมูลจำนวนผู้ติดเชื้อในอาสาสมัครจำนวน 164 คน ดังนั้น บริษัทยังต้องดำเนินการรวบรวมผลการทดสอบต่อไปจนครบตามจำนวนดังกล่าว และจะนำผลที่ได้ในกลุ่มนี้มาวิเคราะห์ ประเมิน และจัดทำเป็นรายงานผลการทดสอบเบื้องต้นฉบับสมบูรณ์ (full interim) เพื่อยื่นต่อองค์การอาหารและยาแห่งชาติ สหรัฐ (USFDA) เพื่อขอการรับรองอนุมัติให้ใช้วัคซีนได้ในกรณีฉุกเฉิน (Emergency Use Authorization) ในกลุ่มประชากรเฉพาะต่อไป
.
นอกจากนี้ ผู้บริหารบริษัท ไฟเซอร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลการทดสอบระยะที่ 3 ใกล้จะสมบูรณ์แล้ว หากผลการทดสอบเป็นที่น่าพอใจ และขึ้นทะเบียนสำเร็จ
บริษัทฯ จะเดินหน้าการผลิตวัคซีนโดยด่วน โดยคาดว่าภายในสิ้นปี 2563 จะสามารถผลิตวัคซีนชนิดนี้ได้กว่า 50 ล้านโด๊สจากฐานการผลิตทั่วโลก และอาจจะทำการผลิตได้มากถึง 1,300 ล้านโด๊ส ภายในสิ้นปี 2564 นี้

เรียบเรียงข้อมูลโดย: NVI Public Affairs Team
วันที่: 11/11/63