2 ธันวาคม 2020

อุปทูตออสเตรเลีย หารือ NVI&DDC สร้างความร่วมมือเพื่อการบริหารจัดการวัคซีนโควิดในไทย

อุปทูตออสเตรเลีย หารือ NVI&DDC สร้างความร่วมมือเพื่อการบริหารจัดการวัคซีนโควิดในไทย

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย ได้มอบหมายให้ นาย Paul Stephens อัครราชทูตแห่งเครือรัฐออสเตรเลียประจำประเทศไทยและคณะเข้าพบ นายแพทย์นคร เปรมศรี ณ ห้องประชุมรัตนโกสินทร์ สถาบันวัคซีนแห่งชาติ

การเข้าหารือของ นาย Paul Stephens ในครั้งนี้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและออสเตรเลีย และหารือแนวทางความร่วมมือในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 โดยเฉพาะประเด็นการกระจายวัคซีน และการบริหารจัดการระบบลูกโซ่ความเย็น ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมศักยภาพด้านการบริหารจัดการวัคซีน โดยเน้นระบบการบริหารจัดการวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ ตั้งแต่คลังวัคซีนส่วนกลางถึงหน่วยบริการฉีดวัคซีน โดยการเข้าหารือในครั้งนี้ มี นาย Greg Thomas กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ลินฟ้อกซ์ ทรานสปอร์ต (ประเทศไทย) จํากัด เข้าร่วมการหารือฐานะคณะผู้ติดตาม

จากการหารือ สถาบันวัคซีนแห่งชาติมีความยินดีอย่างยิ่งที่ทั้งสองประเทศอาจมีความร่วมมือในด้านการบริหารจัดการวัคซีนโควิด 19 ของประเทศไทย อย่างไรก็ตามการดำเนินงานดังกล่าวจำเป็นที่จะต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีภารกิจด้านการบริหารจัดการวัคซีนโดยตรงได้แก่ กรมควบคุมโรค และองค์การเภสัชกรรม ซึ่งสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ยินดีเป็นสื่อกลางในการประสานความร่วมมือและการหารือดังกล่าวทั้งนี้ แนวทางการบริหารจัดการวัคซีนของประเทศไทย จำเป็นต้องวางแนวทางรองรับการบริหารจัดการระบบลูกโซ่ความเย็นของวัคซีนในรูปแบบต่างๆ เนื่องจากวัคซีนแต่ละรูปแบบมีการในจัดเก็บอุณหภูมิที่ต่างกัน มีทั้งวัคซีนที่สามารถจัดเก็บในตู้เย็นธรรมดาอุณหภูมิ 2-8°C จนกระทั่งต้องจัดเก็บในตู้แช่ชนิดเยือกแข็ง (อุณหภูมิ -80°C) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของวัคซีนที่ประเทศจะจัดหามาใช้ตามนโยบายการเข้าถึงวัคซีนโควิด 19 ของประชาชนไทย

ในการนี้ นาย Paul Stephens อัครราชทูตออสเตรเลีย ได้กล่าวแสดงความยินดีกับสถาบันวัคซีนแห่งชาติ และกระทรวงสาธารณสุขในการควบคุมการระบาดของโควิด 19 ซึ่งมีแนวทางการจัดหาวัคซีนที่ชัดเจน รวมทั้งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ทั้งนี้ ฝ่ายออสเตรเลียมีความยินดีที่จะให้การสนับสนุนด้านการบริหารจัดการวัคซีนโควิด 19 ตามแนวทางดำเนินงานของประเทศไทย และจะมีการเจรจาเพื่อหารือความเป็นไปได้ที่จะมีความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายต่อไป

รวบรวมข้อมูลโดย: NVI Public Affairs Team
วันที่: 2/12/63