สธ. เผยรัฐยินดีเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนร่วมจัดหา-บริการวัคซีนโควิด 19 แก่ประชาชน

Home   >   ข่าวสาร   >   ข่าวประชาสัมพันธ์   >   สธ. เผยรัฐยินดีเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนร่วมจัดหา-บริการวัคซีนโควิด 19 แก่ประชาชน

👁️ เข้าชม 0

ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนเผย ภาครัฐยินดีเปิดโอกาสให้เครือข่ายโรงพยาบาลเอกชน /สมาคมโรงพยาบาลเอกชน ร่วมจัดหา-บริการวัคซีนโควิด 19 แก่ประชาชน เพิ่มช่องทางให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนมากขึ้น ไม่มีการปิดกั้นแต่ต้องรอพ้นช่วงที่วัคซีนมีจำกัด

วันนี้ (9 เมษายน 2564) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ แถลงข่าวประเด็นความร่วมมือในการจัดหาวัคซีนร่วมกับภาคเอกชน ว่า วันนี้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และผู้บริหาร หารือร่วมกับเครือข่ายโรงพยาบาลเอกชน สมาคมโรงพยาบาลเอกชน ถึงแนวทางการจัดหา-บริการวัคซีนโควิด 19 แก่ประชาชนเพิ่มเติม โดยมอบให้ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร เป็นประธานในการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม ซึ่งภาคเอกชนได้แสดงเจตจำนงมีส่วนร่วมในการจัดหาวัคซีน โดยอาศัยว่าอาจมีความคล่องตัวมากกว่าภาครัฐ รวมทั้งยินดีทำตามแผนบริหารจัดการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขในการกระจายวัคซีนและบริการฉีดวัคซีน ทั้งนี้ การร่วมดำเนินงานจะเป็นไปตามนโยบายที่กำหนดไว้ ซึ่งทาง อย. ได้เปิดกว้างการขึ้นทะเบียนวัคซีนทุกชนิด ให้ผู้ขอขึ้นทะเบียนส่งเอกสารเข้ามาพิจารณาเพื่อให้เกิดความมั่นใจในประสิทธิภาพและความปลอดภัย และการที่ภาคเอก

ชนเข้ามามีส่วนร่วมนับเป็นการช่วยสนับสนุนภาครัฐ และช่วยอำนวยความสะดวก เพิ่มช่องทางให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนมากขึ้น โดยช่วงเวลาที่มีความเป็นไปได้ที่ภาคเอกชนจะจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมได้นั้น น่าจะเป็นช่วงที่วัคซีนมีมากขึ้นหลังเดือนมิถุนายน 2564

นพ.นคร กล่าวต่อว่า การจัดหาวัคซีนภาครัฐโดยกรมควบคุมโรคและสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ดำเนินการได้เป็นอย่างดีสามารถจัดหาได้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน รวมทั้งกระทรวงสาธารณสุขมีศักยภาพในการจัดบริการวัคซีน มีโรงพยาบาลของภาครัฐกว่า 1,000 แห่ง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลอีกประมาณ 10,000 แห่ง

“การกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส เป็นอีกปัจจัยที่ต้องให้ความสำคัญ วัคซีนที่มีอยู่ยังสามารถใช้ป้องกันโรคและอาการป่วยรุนแรงได้ แต่ไม่สามารถคาดการณ์ในอนาคต สิ่งสำคัญที่จะเอาชนะไวรัสกลายพันธุ์ได้ คือการกระจายวัคซีนออกไปให้ครอบคลุมประชาชนมารับการฉีดวัคซีนอย่างครบถ้วนในระยะเวลารวดเร็ว ป้องกันไม่ให้ระบาดใหญ่ขอย้ำว่า กรมควบคุมโรคและสถาบันวัคซีนแห่งชาติ สามารถจัดหาวัคซีนเพียงพอสำหรับประชาชนคนไทย การที่เอกชนมีเจตนาในการเข้ามาเสริมการทำงานก็ยินดี เพื่อเดินหน้าต่อสู้กับโควิดด้วยกันต่อไป” นพ.นครกล่าว

********************************** 9 เมษายน 2564

จากหน่วยงาน : กลุ่มภารกิจด้านข่าวและสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักสารนิเทศ
 วันที่ประกาศข่าว : 9 เมษายน 2564 เวลา 20:31 น.

Leave a Comment