10 พฤศจิกายน 2022

คกก. วัคซีนแห่งชาติ เห็นชอบ “กรอบการจัดหาวัคซีนโควิด 19 ปีงบ 66 ให้มีวัคซีนเข็มกระตุ้นสำหรับ กลุ่ม 608 บุคลากรการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า และประชาชนทั่วไป”

นายอนุทิน ชาญวีรกูล
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์
รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข

          คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ เห็นชอบนโยบายสนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดซื้อจัดหาวัคซีน โดยเบื้องต้นให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สนใจและมีความพร้อมดำเนินการจัดซื้อจัดหาวัคซีนพื้นฐาน/ที่จำเป็นมาให้บริการประชาชนในพื้นที่ โดยสถาบันวัคซีนแห่งชาติ และกรมควบคุมโรค เป็นหน่วยงานสนับสนุนด้านวิชาการ และยังเห็นชอบแนวทางการจัดหาวัคซีนโควิด 19ปี 2566 ใน กลุ่ม 608 และกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข รวมถึงเจ้าหน้าที่ ด่านหน้าและ อสม.
ควรได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น 1-2 ครั้งต่อปี

          วันนี้ (10 พฤศจิกายน 2565) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูลรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธาผรณสุข พร้อมด้วย ดร.สาธิต  ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์โสภณ  เอี่ยมศิริถาวร รองกรมควบคุมโรค และนายแพทย์นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ร่วมประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2565 โดยมีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วมทั้งในที่ประชุมและรูปแบบออนไลน์

          นายอนุทิน ได้กล่าวถึงการเข้าร่วมพิธีเปิด World Bio Summit 2022 พร้อมกับคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ได้มีการหารือทวิภาคีด้านสาธารณสุข การลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสาธารณสุขไทยกับกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการแห่งสาธารณรัฐเกาหลีว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุข มุ่งเน้นความร่วมมือด้านความมั่นคงด้านสุขภาพ การเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ระบบสุขภาพ การดูแลสุขภาพดิจิทัล เพื่อเสริมสร้างระบบสุขภาพให้มีความเข้มแข็ง รวมทั้งพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนของทั้งสองประเทศให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงชื่นชมการเข้าเป็นภาคีกับสถาบันวัคซีนนานาชาติ ในโอกาสที่ได้เข้าร่วมพิธี
แสดงสัตยาบัน
Thailand – IVI Ratification Ceremony เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งการที่ไทยเข้าร่วมเป็นภาคี IVI จะช่วยส่งเสริมความร่วมมือระหว่างองค์กร ขยายบทบาทและภารกิจระดับโลกของประเทศไทยในการเข้าถึงวัคซีน โดยมีสถาบันวัคซีนแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักในการร่วมมือเพื่อเพิ่มความมั่นคงด้านวัคซีน

          นพ.โสภณ ได้นำเสนอเรื่องเพื่อพิจารณา เรื่องที่ 1 คือ กรอบการจัดหาวัคซีนโควิด 19ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ว่า จากการที่กรมควบคุมโรคมีเป้าหมายที่จะลดความเสี่ยงการติดเชื้อ ป่วยหนักและเสียชีวิตจากโรคโควิด 19 ในกลุ่มผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป, กลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัวและโรคเรื้อรัง (608)และกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข รวมถึงประชาชนทั่วไปตามความสมัครใจ ซึ่งควรได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น 1-2 ครั้งต่อปีนั้น แต่เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีคำแนะนำจากองค์การอนามัยโลก จึงต้องติดตามคำแนะนำการให้วัคซีนโควิด 19 ในระยะถัดไปอย่างใกล้ชิด รวมทั้งนำประเด็นเข้าหารือในการประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค เพื่อให้คำแนะนำสำหรับการให้วัคซีนโควิด 19 อย่างเหมาะสม ทั้งนี้ ที่ประชุม มีมติเห็นชอบในหลักการ

นายแพทย์นคร เปรมศรี
นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร
ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ
รองอธิบดีกรมควบคุมโรค

          ในส่วนของแผนการบริหารจัดการวัคซีนโควิด 19 ในระยะที่เป็นโรคติดต่อเฝ้าระวังว่ากรมควบคุมโรคได้มีแผนบริหารจัดการกลุ่มเป้าหมายที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ กลุ่ม 608 กลุ่มเด็กอายุ 6 เดือน – 4 ปี ในสถานพยาบาลรัฐและเอกชน รวมถึงกลุ่ม อสม. โดยเสนอให้มีการจัดหน่วยฉีดวัคซีนหลักประจำจังหวัด และอำเภอ Well baby clinic ในสถานพยาบาลรัฐและเอกชน Group Vaccination อาทิ บ้านพักคนชรา สถานสงเคราะห์ รวมถึงจัดให้มีหน่วยฉีดวัคซีนเคลื่อนที่ พร้อมทั้งเสนอให้มีการจัดกิจกรรม Vaccination Day of the Week

          นพ.นคร นำเสนอ สำหรับเรื่องเพื่อพิจารณา เรื่องที่ 2 คือ (ร่าง) นโยบายสนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดซื้อจัดหาวัคซีน เพื่อเป็นนโยบายในการสนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้มีบทบาทเป็นส่วนเสริมจากแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงวัคซีนให้กับประชาชนในท้องที่ ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการ โดยมอบหมายให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติ และกรมควบคุมโรคเป็นผู้ประสานการดำเนินงาน

          จากนั้น นพ.นคร นำเสนอเกี่ยวกับความก้าวหน้าการวิจัยพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด 19 ในประเทศไทย ขณะนี้ว่า มีวัคซีนโควิด 19 ที่ได้ทำการทดสอบในมนุษย์แล้ว จำนวน 4 ชนิด ได้แก่ 1.วัคซีนโควิด19 ชนิด NDV-HXP-S โดยองค์การเภสัชกรรม 2. วัคซีน ChulaCov19 ชนิด mRNA โดยศูนย์วิจัยวัคซีนแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 3. วัคซีนโควิด 19 ชนิดดีเอ็นเอ โดยบริษัทไบโอเนท-เอเชีย จำกัด และ 4. วัคซีน Baiya SARS-CoV-2 Vax ชนิด Recombinant โดยบริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด ขณะที่วัคซีนวัคซีนโควิด 19 รูปแบบพ่นจมูก
โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ใกล้เข้าสู่การทดสอบในมนุษย์ระยะที่ 1

          ท้ายนี้ สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ขอเชิญชวน บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข รวมทั้งประชาชน
ที่สนใจ เข้าร่วมรับฟังการเสวนาวิชาการเนื่องในวันปอดอักเสบโลก หัวข้อ ประเทศไทยกับการเตรียมความพร้อม
สู่การป้องกันโรคปอดอักเสบหลังการระบาดโควิด 19 ที่จะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2565 เวลา
10.00 – 12.00 น. ผ่านทาง Facebook Live ของสถาบันวัคซีนแห่งชาติ