Home > ข่าวสาร > ข่าวประชาสัมพันธ์ > สวช. ร่วมตรวจเยี่ยมโครงการวิจัยทางคลินิกระยะที่ 3 ของวัคซีน HXP-GPOVac
👁️ เข้าชม 2
สถาบันวัคซีนแห่งชาติร่วมตรวจเยี่ยมโครงการวิจัยทางคลินิกระยะที่ 3 ของวัคซีน HXP-GPOVac
สถาบันวัคซีนแห่งชาติร่วมตรวจเยี่ยมโครงการวิจัยทางคลินิกระยะที่ 3 เพื่อประเมินความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของวัคซีนเอชเอ็กซ์พี-จีพีโอแวค (HXP-GPOVac) เมื่อใช้เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้น ณ ศาลาประชาคมยงใจยุทธ ศาลากลางจังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นสถานที่ดำเนินการวิจัย
วันนี้ (23 ธันวาคม 2565) ณ ศาลาประชาคมยงใจยุทธ ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และผู้บริหารสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เข้าตรวจเยี่ยมโครงการวิจัยทางคลินิกระยะที่ 3 ซึ่งเป็นโครงการวิจัยเพื่อประเมินความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของวัคซีน HXP-GPOVac ขนาด 10 ไมโครกรัม ในรูปแบบเข็มกระตุ้น เปรียบเทียบกับวัคซีนโควิด 19 ชนิดที่ใช้ไวรัลเวกเตอร์เป็นพาหะ ทั้งนี้ วัคซีน HXP-GPOVac เป็นวัคซีนโควิด 19 ที่พัฒนาโดยองค์การเภสัชกรรม โดยวันนี้เป็นวันแรกที่เริ่มฉีดวัคซีนให้กับอาสาสมัครที่เข้าร่วมโครงการ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ที่พัฒนาโดยองค์การเภสัชกรรม (HXP-GPOVac) ขณะนี้ได้เข้าสู่การทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 แล้ว และเป็นการศึกษาเพื่อประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการใช้เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้น ซึ่งจะดำเนินการทดสอบที่โรงพยาบาลนครพนม จังหวัดนครพนม ในอาสาสมัครอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 4,000 คน ที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 มาแล้วจำนวน 2 โดส ซึ่งหากผลการทดสอบพบว่า วัคซีนมีศักยภาพในการใช้เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้น จะเป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงวัคซีนของประชาชนไทย และแสดงถึงความสามารถในการพึ่งพาตนเองด้านวัคซีนของประเทศ รวมทั้งเป็นการส่งเสริมให้เกิดความมั่นคงด้านวัคซีนของประเทศ หากเกิดการระบาดขึ้นอีกในอนาคต พร้อมกันนี้ นายอนุทิน ยังได้แสดงความชื่นชมถึงความร่วมมือจากบุคลากรที่เกี่ยวข้อง อสม. ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ที่ให้ความร่วมมือในการดำเนินการวิจัยเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ สถาบันวัคซีนแห่งชาติ มีพันธกิจในการส่งเสริม สนับสนุน การวิจัยและพัฒนาการผลิตวัคซีน สำหรับใช้ทั้งในสถานการณ์ปกติและสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยมุ่งเน้นการพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน เพื่อเป็นการสร้างหลักประกันว่า ประชาชนไทยจะได้รับวัคซีนที่มีคุณภาพ มีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัย และมีปริมาณเพียงพอสำหรับใช้ป้องกันโรค
ที่มา : สถาบันวัคซีนแห่งชาติ
วันที่ 23 ธันวาคม 2565