ประเทศไทย โดยสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานเลขาธิการอาเซียน และภาคีเครือข่ายนานาชาติ จัดการประชุมความร่วมมือเพื่อความมั่นคงและการพึ่งพาตนเองด้านวัคซีนในภูมิภาคอาเซียน (AVSSR) โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อร่วมผลักดันยุทธศาสตร์การพึ่งพาตนเองด้านวัคซีนของภูมิภาคอาเซียนให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมขับเคลื่อนการดำเนินงานในระดับภูมิภาคอย่างยั่งยืน โดยมีการติดตามผลการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์และปฏิบัติการความมั่นคงและการพึ่งพาตนเองด้านวัคซีนในอาเซียน พ.ศ. 2564-2568 จากประเทศสมาชิก นอกจากนี้ สถาบันวัคซีนแห่งชาติได้ร่วมมือกับสถาบันวัคซีนนานาชาติ (International Vaccine Institute, IVI) จัดหลักสูตรอบรมบุคลากรด้านวัคซีนของภูมิภาคอาเซียนต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยมีธนาคารโลก (The World Bank) เป็นผู้ให้การสนับสนุน ระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2568 ณ โรงแรมแมนดาริน กรุงเทพมหานคร
วันที่ 19 สิงหาคม 2568 สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานเลขาธิการอาเซียน จัดการประชุมระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน เรื่อง ASEAN Meeting on the AVSSR: Reviewing Progress and Advancing the Strategic Action Beyond 2025 โดยผู้เข้าร่วมการประชุมประกอบด้วย ผู้บริหารหน่วยงานด้านการสาธารณสุขจากหลายภาคส่วน อาทิ ผู้แทนกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการสาธารณสุขแห่งอาเซียน ผู้แทนสำนักงานเลขาธิการอาเซียน (ASEAN Secretariat : ASEC) องค์การอนามัยโลก (World Health Organization : WHO) กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) สถาบันวัคซีนนานาชาติ (International Vaccine Institute: IVI) ธนาคารโลก (The World Bank) กลุ่มพันธมิตรความร่วมมือด้านนวัตกรรมเพื่อรับมือโรคระบาด (Coalition for Epidemic Preparedness Innovations : CEPI) องค์กรพันธมิตรเพื่อวัคซีน (Global Alliance for Vaccines and Immunization : GAVI) องค์การอนามัยแพนอเมริกัน (Pan American Health : PAHO) องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (Japan International Cooperation Agency : JICA) ผู้เชี่ยวชาญจาก Regionalized Vaccine Manufacturing Collaborative (RVMC) และ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (National University of Singapore : NUS)
.
การประชุมในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ ซาน วิน (H.E. San Lwin) รองเลขาธิการอาเซียนฝ่ายประชาสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ร่วมเปิดงาน ทั้งนี้มีผู้เข้าร่วมการประชุมทั้งในที่ประชุมและออนไลน์ กว่า 90 คน
.
ฯพณฯ ซาน วิน (H.E. San Lwin) รองเลขาธิการอาเซียนฝ่ายประชาสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ได้กล่าวแสดงความขอบคุณต่อประเทศไทยและประเทศสมาชิกอาเซียนสำหรับความมุ่งมั่นในการดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ของยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการระดับภูมิภาคด้านความมั่นคงและการพึ่งพาตนเองด้านวัคซีนของอาเซียน (AVSSR) สำหรับปี 2564-2568 ที่ผ่านมา อาทิ การพัฒนาศักยภาพด้านวัคซีน การพัฒนาอาเซียนวัคซีนแดชบอร์ด ซึ่งสะท้อนถึงความร่วมมือและความมุ่งมั่นของประเทศสมาชิกในการเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านวัคซีนในภูมิภาค และเนื่องจากแผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการระดับภูมิภาคปี พ.ศ. 2564-2568 กำลังจะสิ้นสุดลง การประชุมจะยังคงวางแนวทางการดำเนินงานสำหรับระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2569–2573) อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ความร่วมมือในภูมิภาคมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายด้านวัคซีนที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่จะพาอาเซียนไปสู่ความมั่นคงและสามารถพึ่งพาตนเองด้านวัคซีนได้ในอนาคต
.
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวแสดงความขอบคุณต่อธนาคารโลกและสถาบันวัคซีนนานาชาติ (IVI) สำหรับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง และทำให้ประเทศสมาชิกอาเซียนสามารถมารวมตัวกันและมุ่งมั่นในการผลักดันโครงการความร่วมมือเพื่อความมั่นคงและการพึ่งพาตนเองด้านวัคซีนในภูมิภาคอาเซียน (AVSSR) ให้ก้าวหน้า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งโครงการ ฯ มีเป้าหมายเดียวกัน คือ การร่วมกันขับเคลื่อนงานด้านวัคซีนเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ ทั้งนี้การประชุมครั้งนี้นับเป็นโอกาสสำคัญในการทบทวนความสำเร็จที่ผ่านมา ตลอดจนการหารือแนวทางการพัฒนาความร่วมมือในระดับภูมิภาค เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านวัคซีนและความพึ่งพาตนเองในระยะยาว นายแพทย์โอภาส กล่าวย้ำว่า การทำงานร่วมกันในระยะถัดไปมีความสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งนี้เพื่อสร้างภูมิภาคอาเซียนที่มีความพร้อมและพึ่งพาตนเองได้มากขึ้น พร้อมขอบคุณสำนักเลขาธิการอาเซียน ประเทศสมาชิก และพันธมิตรด้านการพัฒนาทุกฝ่ายสำหรับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง
.
ที่ประชุมได้มีการหารือระเบียบวาระสำคัญเกี่ยวกับการทบทวนผลการดำเนินงานในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2564-2568) เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ แผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการ AVSSR ในด้านต่าง ๆ ทั้งการพัฒนานโยบายวัคซีน การเสริมสร้างศักยภาพบุคลากร และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน โดยที่ประชุมยังได้พิจารณาแนวทางในการพัฒนางานด้านวัคซีนของภูมิภาคอาเซียนให้มีความเข้มแข็ง ครอบคลุม และยั่งยืน พร้อมรองรับความท้าทายด้านสุขภาพในอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมหารือเพื่อกำหนดทิศทางและแผนยุทธศาสตร์สำหรับระยะ 5 ปีข้างหน้า (พ.ศ. 2569-2573) เพื่อยกระดับบทบาทของอาเซียนในเวทีโลก โดยเน้นการเสริมสร้างความร่วมมือภายในภูมิภาคตลอดจนการขยายความร่วมมือไปสู่ระดับนานาชาติ โดยที่ประชุมในประเทศสมาชิกได้ให้ความเห็นชอบกับแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าว
.
และเพื่อเป็นการยกระดับศักยภาพบุคลากรด้านวัคซีนในภูมิภาคอาเซียน และเสริมสร้างขีดความสามารถของประเทศสมาชิก สถาบันวัคซีนแห่งชาติร่วมกับสถาบันวัคซีนนานาชาติ จัดการอบรมหลักสูตรพัฒนาบุคลากรด้านวัคซีนของภูมิภาคอาเซียนขึ้นเป็นปีที่ 2 โดยปีนี้จัดในหัวข้อ AVSSR Vaccine Human Resource Development Program 2025: Building Resilient Vaccine Policies for Epidemic/Pandemic Readiness: ASEAN Perspectives in Global and Regional Contexts ขึ้นเป็นปีที่ 2 ในวันที่ 20 สิงหาคม 2568 โดยได้รับการสนับสนุนจากธนาคารโลก การอบรมครั้งนี้ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจากประเทศสมาชิกอาเซียน มีผู้เข้าร่วมกว่า 90 คน จากทั้งภาครัฐและเอกชน เนื้อหาการอบรมครอบคลุมประเด็นเชิงยุทธศาสตร์เกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมรับมือโรคระบาดในระดับโลกและระดับภูมิภาค โดยมุ่งเน้นการแลกเปลี่ยนบทเรียนและประสบการณ์จากภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก ผ่านมุมมองของอาเซียนในบริบทระดับภูมิภาคและระดับโลก
.
ด้าน นายแพทย์เจอโรม คิม (Dr. Jerome Kim) ผู้อำนวยการใหญ่สถาบันวัคซีนนานาชาติ (IVI) กล่าวในฐานะเจ้าภาพร่วมในการจัดอบรมพัฒนาบุคคลากรด้านวัคซีนว่า การอบรมครั้งนี้ให้ความสำคัญกับการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวทางเชิงนโยบายในการเตรียมความพร้อมด้านวัคซีน เพื่อรับมือกับโรคระบาด พร้อมมีการประชุมเชิงปฏิบัติการ ร่วมระดมความคิดเห็น และนำเสนอแนวทางการพัฒนาความมั่นคงด้านวัคซีนในระดับประเทศและภูมิภาค เพื่อนำข้อมูลมาพัฒนาเป็นแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมและสอดคล้องกับบริบทของแต่ละประเทศ ซึ่งการอบรมได้สะท้อนความมุ่งมั่นของสถาบันวัคซีนนานาชาติ และสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ในการสร้างนโยบายวัคซีนที่มั่นคงและยั่งยืน เพื่อเสริมความมั่นคงด้านสุขภาพในภูมิภาคอาเซียน และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อให้พร้อมรับมือกับภาวะวิกฤติด้านสุขภาพอย่างได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ
.
นายแพทย์นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวเสริมว่า การประชุมในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 10 ซึ่งความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนมีความก้าวหน้า มีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ปัจจุบันยังได้ขยายความร่วมมือไปยังเครือข่ายด้านวัคซีนระดับนานาชาติ ซึ่งเป็นการยกระดับการวิจัย พัฒนา วัคซีนของภูมิภาค และมาตรฐานการดำเนินงานให้สอดคล้องในระดับสากล ตลอดจนช่วยขับเคลื่อนการประสานเชิงนโยบายเพื่อให้การตอบสนองต่อโรคระบาดมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น สำหรับการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรนั้น ถือเป็นหัวใจสำคัญของแผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการ AVSSR เพราะการพัฒนาทักษะ ความรู้ และเครือข่ายของผู้ปฏิบัติงานด้านวัคซีน ไม่เพียงช่วยเพิ่มความพร้อมของภูมิภาคเท่านั้น แต่ยังสร้างความยั่งยืนในการพัฒนา ผลิต และกระจายวัคซีนในกลุ่มประเทศอาเซียนอีกด้วย
.
นายแพทย์นคร ยังได้แสดงความขอบคุณสถาบันวัคซีนนานาชาติ (IVI) และธนาคารโลก (World Bank) สำหรับการสนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้ รวมถึงเครือข่ายความร่วมมือระดับภูมิภาคและสำนักเลขาธิการอาเซียน พร้อมกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า การประชุมและการอบรมที่เกิดขึ้นไม่เพียงเป็นการผลักดันและขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างเครือข่ายพันธมิตรที่เข้มแข็ง เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการวิจัย พัฒนา ผลิตและเข้าถึงวัคซีนของภูมิภาคเราได้อย่างยั่งยืน




ที่มา: สถาบันวัคซีนแห่งชาติ
วันที่ 19 ส.ค. 2568