สถาบันวัคซีนแห่งชาติ จัดเวทีหารือเพื่อความมั่นคงวัคซีนอาเซียน พร้อมร่วมมือกับสถาบันวัคซีนนานาชาติ จัดการอบรมบุคลากรด้านวัคซีนของอาเซียนครั้งแรก!

สถาบันวัคซีนแห่งชาติ จัดเวทีหารือเพื่อความมั่นคงวัคซีนอาเซียน พร้อมร่วมมือกับสถาบันวัคซีนนานาชาติ จัดการอบรมบุคลากรด้านวัคซีนของอาเซียนครั้งแรก!

.

สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานเลขาธิการอาเซียน จัดการประชุมเครือข่ายความร่วมมือเพื่อความมั่นคงและการพึ่งพาตนเองด้านวัคซีนของอาเซียน โดยมีจุดมุ่งหมายให้การประชุมที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีนี้เป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อการเตรียมตัวรองรับภัยสุขภาพใหม่ในอนาคตผ่านการสร้างเครือข่ายพันธมิตรด้านวัคซีนที่เข้มแข็ง โดยการดำเนินการเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์และปฏิบัติการความมั่นคงและการพึ่งพาตนเองด้านวัคซีนในอาเซียน พ.ศ. 2564-2568 นอกจากนี้ สถาบันวัคซีนแห่งชาติได้ร่วมมือกับสถาบันวัคซีนนานาชาติ (International Vaccine Institute, IVI) จัดหลักสูตรอบรมบุคลากรด้านวัคซีนของภูมิภาคอาเซียนเป็นครั้งแรก โดยมีธนาคารโลก (The World Bank) เป็นผู้ให้การสนับสนุน

.

วันที่ 25 กันยายน 2567 ที่โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ กรุงเทพมหานคร สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานเลขาธิการอาเซียน จัดการประชุม ASEAN Meeting on the ASEAN Vaccine Security and Self–Reliance (AVSSR) ในหัวข้อ Strengthening Vaccine Security Through Collaboration and Establishing the AVSSR Steering Committee โดยผู้เข้าร่วมการประชุมประกอบด้วยผู้บริหารหน่วยงานด้านการสาธารณสุขจากหลายภาคส่วน อาทิ ผู้แทนกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการสาธารณสุขแห่งอาเซียน ผู้แทนสำนักงานเลขาธิการอาเซียน องค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) กลุ่มพันธมิตรความร่วมมือด้านนวัตกรรมเพื่อรับมือโรคระบาด (Coalition for Epidemic Preparedness Innovations: CEPI) สถาบันวัคซีนนานาชาติ (International Vaccine Institute: IVI) ธนาคารโลก (The World Bank) สมาชิกสภาวัคซีนโลก (Global Council) ผู้เชี่ยวชาญจาก Regionalized Vaccine Manufacturing Collaborative (RVMC) และ Duke-NUS Medical School

.

โดยการประชุมฯ ได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ เอกภาพ พันธวงศ์ รองเลขาธิการอาเซียน นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติร่วมเปิดงาน ทั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมการประชุมมีทั้งแบบ Onsite และ Online กว่า 70 คน

.

ในที่ประชุมได้มีการหารือระเบียบวาระสำคัญในการผลักดันให้เกิดการดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการเพื่อสร้างความมั่นคงและการพึ่งพาตนเองด้านวัคซีนในอาเซียน พ.ศ. 2564 – 2568 อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะประเด็นที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง คือการสร้างความร่วมมือเพื่อการวิจัยพัฒนาวัคซีน การจัดตั้งคลังสำรองวัคซีน รวมถึงพัฒนาศักยภาพบุคลากรในด้านวัคซีน และการจัดซื้อวัคซีนในระดับภูมิภาค เพื่อให้มีวัคซีนเพียงพอต่อความต้องการของอาเซียนทั้งในภาวะปกติและภาวะที่มีการระบาด รวมถึงกำหนดแผนที่ทางเดินสู่ความมั่นคงและการพึ่งพาตนเองด้านวัคซีนในอาเซียน

.

และเพื่อตอบโจทย์แรกของการผลักดันการพึ่งพาตนเองด้านวัคซีนของภูมิภาคอาเซียนอย่างเป็นรูปธรรม สถาบันวัคซีนแห่งชาติได้ร่วมมือกับสถาบันวัคซีนนานาชาติ จัดหลักสูตรพัฒนาศักยภาพของบุคลากรด้านวัคซีน ในภูมิภาคอาเซียน โดยร่วมกันจัดการอบรม ASEAN Vaccine Security and Self-Reliance (AVSSR) Vaccine Human Resource Development Program for Enhancing Vaccine Development and Deployment Capacities in ASEAN Countries ขึ้นเป็นครั้งแรก ในระหว่างวันที่ 26-27 กันยายน 2567 ณ โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย โดยมีธนาคารโลกเป็นผู้ให้การสนับสนุน ซึ่งการอบรมได้รับความสนใจจากประเทศสมาชิกเป็นอย่างมาก มีผู้เข้าร่วมการอบรมจากทั้งภาครัฐและเอกชนของประเทศสมาชิกอาเซียนกว่า 100 คน โดยการอบรมมีเนื้อหาเกี่ยวกับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีน กลไกการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์วัคซีนให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล รวมถึงการรับมือและการสื่อสารความเสี่ยงในภาวะที่ประชาชนมีความลังเลใจในการรับวัคซีน

.

นพ. นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวถึงบทบาทของสถาบันวัคซีนแห่งชาติในการดำเนินงานด้านวัคซีนในดับภูมิภาคอาเซียนว่า “สถาบันได้พัฒนาความร่วมมือกับหน่วยงานเครือข่ายต่างประเทศ ทั้งภาครัฐและเอกชน ในหลายภูมิภาคทั่วโลก เพื่อให้เกิดการยกระดับศักยภาพด้านวัคซีนของประเทศและภูมิภาคอาเซียนให้อยู่ในระดับมาตรฐานสากล สำหรับการประชุม ASEAN Meeting on the ASEAN Vaccine Security and Self–Reliance (AVSSR) จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 8 แล้ว ซึ่งความร่วมมือกันระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนมีความก้าวหน้า มีพัฒนาการที่ดี และคาดว่าจะสามารถต่อยอดกิจกรรมเพื่อดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์และปฏิบัติการความมั่นคงและการพึ่งพาตนเองด้านวัคซีนในอาเซียนที่ทุกประเทศได้ร่วมกันวางไว้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดร่วมกันต่อไป สำหรับความร่วมมือกับสถาบันวัคซีนนานาชาติ ในการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในภูมิภาคอาเซียนด้านวัคซีนนั้น ถือเป็นกลไกสำคัญที่จะทำให้เกิดความเข้มแข็งในการพัฒนางานด้านวัคซีนของภูมิภาคอาเซียนได้อย่างยั่งยืน เพราะการพัฒนาคนนั้น เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้การดำเนินงานทำได้อย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพ เพื่อการเตรียมความพร้อมในการรองรับภัยพิบัติทางสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ ผมเชื่อมั่นว่า เมื่อทุกประเทศร่วมมือกันอย่างแน่นแฟ้น ไม่เพียงแค่ภูมิภาคของเราที่จะเข้มแข็งขึ้น แต่ยังส่งสัญญาณถึงโลกว่าอาเซียนพร้อมก้าวไปสู่อนาคตด้วยความมุ่งมั่นที่จะพึ่งพาตัวเองด้านวัคซีน บนเส้นทางที่เราจะก้าวต่อไปนี้ ทั้งนี้ ความร่วมมือ คือ พลังสำคัญที่จะนำความมั่นคงด้านวัคซีนมาสู่ภูมิภาคของเรา และเกิดความยั่งยืนทางระบบสาธารณสุขต่อไป”