Home > ข่าวสาร > ข่าวประชาสัมพันธ์ > สธ.หนุนจุฬา-ใบยา! เดินหน้าพัฒนาวัคซีนโควิดจากพืช โดยคนไทย เพื่อคนไทย!
👁️ เข้าชม 1
สธ.หนุนจุฬา-ใบยา! เดินหน้าพัฒนาวัคซีนโควิดจากพืช โดยคนไทย เพื่อคนไทย!
วันที่ 14 ธ.ค. 2563 เวลา 11.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ศ.ดร. เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีการลงนามความร่วมมือระหว่าง องค์การเภสัชกรรม บริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด และ บริษัท คินเจน ไบโอเทค จำกัด เพื่อการวิจัย พัฒนาและการผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 จากพืช โดยชูประเด็น “วัคซีนโดยคนไทย เพื่อคนไทย” รวมถึงมีพิธีเปิดโครงการของมูลนิธิซียูเอ็นเทอร์ไพรส์ บริหารงานโดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายใต้ชื่อโครงการ “วัคซีนเพื่อคนไทย” ซึ่งเป็นการเชิญชวนคนไทยร่วมกันบริจาคคนละ500 บาท เพียง 1 ล้านคนเพื่อเป็นการสนับสนุนนักวิจัยไทยในการค้นคว้า วิจัย พัฒนา และผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ณ หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยสถาบันวัคซีนแห่งชาติและหน่วยงานในสังกัดเข้าร่วมเป็นสักขีพยาน
ศาสตราจารย์ ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธานกรรมการบริษัท ซียูเอ็นเทอร์ไพรส์ จำกัด ได้กล่าวเปิดงานและกล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้ โดยมีใจความสำคัญกล่าวถึงความสำเร็จของทีมนักวิจัยแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่สามารถริเริ่ม ผลักดัน และพัฒนาวัคซีนโควิดจากพืชมาได้ถึงการทดสอบในสัตว์ และกำลังอยู่ระหว่างเตรียมการทดสอบในอาสาสมัคร ระยะที่ 1 ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มได้ในกลางปี 2564 เป็นต้นไป อีกทั้งยังได้กล่าวถึงความภาคภูมิใจในพัฒนาการของเทคโนโลยีทางด้านวัคซีนโดยคนไทย เพื่อจะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานในการผลิตวัคซีนในอนาคต เพื่อให้คนไทยสามารถเข้าถึงวัคซีนโควิดได้อย่างทันเวลา และลดการนำเข้าจากต่างประเทศ พร้อมเปิดโครงการ “วัคซีนเพื่อคนไทย” ที่ขอรับบริจาคเงินจากประชาชน คนละ 500 บาท จำนวน 1 ล้านคน เพื่อเร่งรัดการพัฒนาวัคซีนโควิดให้ได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งกระตุ้นการมีส่วนร่วมของประชาชนมากยิ่งขึ้น
ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมได้ย้ำอีกว่า วัคซีนโควิดจากพืชชนิดนี้จะเป็นวัคซีนเพื่อคนไทย โดยคนไทยอย่างแท้จริง นับว่าเป็นความพยายามครั้งยิ่งใหญ่สำหรับประเทศไทย ยกระดับนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้ก้าวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง ไม่แพ้ชาติใดในโลก
นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานในพิธี ได้กล่าวแสดงความยินดี และชื่นชมทีมนักวิจัยของจุฬาฯ ที่มีความสามารถ และความพยายามที่จะผลักดันการสร้างวัคซีนโควิดต้นแบบจากพืชใบยาสูบได้จนถึงขนาดนี้ อีกทั้งยังได้กล่าวเกี่ยวกับแนวทางในการสร้างความมั่นคงทางวัคซีนของประเทศไทย นอกเหนือจากการะดมทุนที่ได้จากโครงการ “วัคซีนเพื่อคนไทย” นั้น ทางรัฐบาลเองก็ไมได้ล่าช้าหรือนิ่งนอนใจแต่อย่างใด ขณะนี้ทางกระทรวงสาธารณสุข โดยสถาบันวัคซีนแห่งชาติกำลังจัดทำคำของบประมาณ ตามแผนงานของ พรก.เงินกู้ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาของสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ในกรอบวงเงิน 150 ล้านบาท สำหรับสนับสนุนการวิจัยพัฒนา และทดสอบวัคซีนในกลุ่มอาสาสมัครในประเทศไทย
นายแพทย์นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ในฐานะผู้รับผิดชอบงบประมาณโครงการดังกล่าว ได้กล่าวเสริมว่า เป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งที่ประเทศไทยมีนักวิจัยมีศักยภาพในการพัฒนาวัคซีนโควิด 19 จากเทคโนโลยีใหม่อย่างพืชใบยาสูบ และชื่นชมทีมนักวิจัยจากบริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด นำโดย ผศ. ดร. ภญ.สุธีรา เตชคุณวุฒิ และรศ. ดร.วรัญญู พูลเจริญ ที่สามารถนำเทคโนโลยีจากพืชมาใช้พัฒนาวัคซีนได้สำเร็จ สถาบันวัคซีนแห่งชาติมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง และพร้อมให้การสนับสนุนเงินทุนสำหรับการวิจัยพัฒนาวัคซีนของประเทศไทย รวมถึงบริษัทใบยา ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ สถาบันฯ จะติดตามการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด และจะประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานเครือข่ายกับบริษัทใบยา อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้โครงการดังกล่าวสำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ “วัคซีนของคนไทย เพื่อคนไทย” ต่อไป