17 November 2020

Moderna เผยประสิทธิภาพวัคซีนโควิด 19 “mRNA-1273” เบื้องต้น พบมีแนวโน้มป้องกันโรคได้กว่า 94.5 %

📌Moderna เผยประสิทธิภาพวัคซีนโควิด 19 “mRNA-1273” เบื้องต้น
พบมีแนวโน้มป้องกันโรคได้กว่า 94.5 %

• Moderna บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพและเวชภัณฑ์ สหรัฐอเมริกาเปิดเผยผลการประเมินประสิทธิภาพเบื้องต้นของวัคซีนโควิด 19 ชนิด mRNA ที่มีชื่อว่า mRNA-1273 พบแนวโน้มวัคซีนมีประสิทธิภาพป้องกันโรคได้ถึง 94.5% อย่างไรก็ตาม รายงานนี้ยังเป็นเพียงผลการประเมินเบื้องต้น การศึกษาและเก็บข้อมูลยังคงต้องดำเนินต่อไป เพื่อให้ได้ผลสรุปที่ชัดเจนที่สุด

• นับเป็นวัคซีนโควิด 19 ชนิดที่ 3 ของโลก ที่มีรายงานผลประเมินประสิทธิภาพวัคซีนเบื้องต้น ต่อจาก BNT162b2 ของ Pfizer (วัคซีนชนิด mRNA มีแนวโน้มป้องกันโรคได้กว่า 90%) และ Sputnik V ของรัสเซีย (วัคซีนชนิด Adeno viral vector แสดงแนวโน้มในการป้องกันโรคได้กว่า 92%)

• การทดสอบวัคซีน mRNA-1273 ในคนระยะที่ 3 ของ Moderna มีอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการกว่า 30,000 ราย ในสหรัฐอเมริกา โดยเริ่มทำการทดสอบตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม อาสาสมัครแบ่งออกเป็นกลุ่มที่ได้วัคซีนจริง และกลุ่มที่ได้ยาหลอก และอาสาสมัครจะได้รับวัคซีนจำนวน 2 เข็ม ห่างกัน 4 สัปดาห์

• จากการทดสอบไม่พบรายงานอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงภายหลังการได้รับวัคซีนในกลุ่มอาสาสมัคร แต่มีรายงานอาการอ่อนเพลีย ปวดศีรษะและมีอาการปวด หลังการฉีดวัคซีนในอาสาสมัครบางรายเท่านั้น

• การวิเคราะห์ข้อมูลประสิทธิภาพวัคซีนเบื้องต้นนั้น คิดจากข้อมูลของอาสาสมัคร 95 รายแรกที่มีรายงานป่วยด้วยโรคโควิด 19 ซึ่งจากการวิเคราะห์พบว่า ในจำนวนผู้ป่วย 95 ราย มีผู้ป่วยเพียง 5 รายเท่านั้นที่ได้รับวัคซีน mRNA-1273 ในขณะที่ผู้ป่วยอีก 90 รายอยู่ในกลุ่มที่ได้รับการยาหลอก จากข้อมูลนี้อาจกล่าวได้ว่าวัคซีนมีแนวโน้มป้องกันโรคได้ 94.5%

• ข้อมูลการศึกษายังแสดงให้เห็นอีกว่า ในการทดลองมีผู้ป่วยอาการรุนแรงทั้งหมด 11 ราย และทั้ง 11 ราย อยู่ในกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีน mRNA-1273

• ผลการศึกษาเบื้องต้นนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดีในด้านประสิทธิภาพของวัคซีน แต่อย่างไรก็ตาม การศึกษายังไม่เป็นที่สิ้นสุด เพราะยังไม่สามารถตอบคำถามได้ว่าภูมิคุ้มกันนี้จะอยู่ได้นานเท่าไหร่ วัคซีนสามารถยับยั้งการเกิดโรครุนแรงหรือหยุดการแพร่เชื้อได้หรือไม่ ซึ่งข้อมูลสำคัญเหล่านี้ล้วนส่งผลถึงวิธีการใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้

• Moderna มีแผนจะนำข้อมูลวัคซีนขอขึ้นทะเบียนกับ US FDA ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และคาดว่าจะสามารถผลิตวัคซีนเพื่อใช้ในประเทศราว 20 ล้านโด๊ส บริษัทคาดว่าจะสามารถผลิตวัคซีนได้ 1,000 ล้านโด๊ส ภายในปี 2564 สำหรับการใช้งานทั่วโลก และอยู่ระหว่างเตรียมการเพื่อขอขึ้นทะเบียนวัคซีนในประเทศอื่นๆ ต่อไป

• สำหรับข้อได้เปรียบของวัคซีน mRNA-1273 ของ Moderna เมื่อเทียบกับวัคซีน BNT162b2 ของ Pfizer ซึ่งผลิตด้วยเทคโนโลยีเดียวกัน นอกจากผลแสดงแนวโน้มของประสิทธิภาพแล้ว พบว่า วัคซีน mRNA-1273 ของ Moderna มีความสะดวกในการบริหารจัดการมากกว่า เนื่องจากวัคซีนมีความคงสภาพที่อุณหภูมิ -20 °C นาน 6 เดือน หรือ เก็บวัคซีนไว้ในตู้เย็นอุณหภูมิ 2-8 °C ได้เป็นเวลา 30 วัน ในขณะที่ วัคซีน BNT162b2 ของ Pfizer ต้องขนส่งและจัดเก็บที่อุณหภูมิ -75 °C หรือ เก็บวัคซีนไว้ในตู้เย็นอุณหภูมิ 2-8 °C ได้เป็นเวลา 5 วัน เท่านั้น

รวบรวมข้อมูลโดย: NVI Public Affairs Team
วันที่: 17/11/63