3 March 2023

การประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ 1/2566

     คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ เห็นชอบนโยบายการเร่งรัดการให้บริการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคการให้วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดฉีด (IPV) 2 โดส และการเร่งสร้างความครอบคลุมของการฉีดวัคซีน HPV

     คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติเห็นชอบนโยบายการเร่งรัดการให้บริการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด 19การผลักดันการให้วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดฉีด (IPV) เพิ่มเป็น 2 โดสรวมถึงการเร่งสร้างความครอบคลุมของการได้รับวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV)และได้พิจารณาให้ความเห็นต่อวาระสำคัญ ได้แก่ (ร่าง) ระเบียบคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติว่าด้วยการส่งเสริมการสนับสนุน เพื่อการจัดหาวัคซีนในกรณีมีเหตุฉุกเฉินหรือมีเหตุจำเป็นในการประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติครั้งที่ 1/2566

     วันนี้ (2 มีนาคม 2566) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในฐานะประธานคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ พร้อมด้วยนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์นคร เปรมศรีผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ และคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติครั้งที่ 1/2566ณ ห้องประชุมชัยนาทนเรนทร อาคาร 1 ชั้น 2 ตึกสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขโดยมีการเข้าร่วมทั้งในที่ประชุมและรูปแบบออนไลน์

     นายอนุทิน กล่าวว่า การบริหารจัดการวัคซีนโควิด 19 ของประเทศไทยที่ผ่านมาเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ดีว่ากระทรวงสาธารณสุขสามารถรับมือกับสถานการณ์โควิด 19 ได้เป็นอย่างดีและด้วยความสัมพันธ์อันดีกับนานาประเทศจึงทำให้นอกจากที่ประเทศไทยได้รับวัคซีนจากการจัดซื้อแล้วยังทำให้ได้รับวัคซีนจากการบริจาคจากประเทศพันธมิตรหลายประเทศอีกด้วย โดยในปัจจุบันประเทศไทยได้รับสนับสนุนวัคซีนชนิด Bivalent ของ Pfizer จากสาธารณรัฐเกาหลีใต้จำนวน 5 แสนโดส เพื่อนำมาฉีดสร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงโดยได้มอบหมายให้กรมควบคุมโรคเป็นหน่วยงานในการกระจายจัดสรรวัคซีนให้แก่ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ประชาชนได้รับวัคซีนอย่างถ้วนหน้าและสำหรับการบริหารการฉีดวัคซีน นั้น กระจายผ่านโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพสต.)โดยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมีหน้าที่การบริหารจัดการให้แก่ประชาชนการจัดหาวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกซึ่งดำเนินการตามนโยบายของ สปสช. ผ่านบริษัทผู้ผลิตวัคซีนองค์การเภสัชกรรม จำนวน 8 แสนโดส เป็นเรื่องที่ต้องเร่งดำเนินการควบคู่ไปกับวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19

     นายแพทย์นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ รายงานความก้าวหน้าของการพัฒนาวัคซีนโควิด 19ในประเทศ ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมารในการวิจัยพัฒนาจากรัฐ โดยขณะนี้วัคซีนโควิด 19ที่ได้ทำการทดสอบในมนุษย์ จำนวน 3 ชนิด ได้แก่ 1) วัคซีน HXP-GPOVAC ชนิด NDV-HXP-Sโดยองค์การเภสัชกรรม 2) วัคซีน ChulaCov19 ชนิด mRNA โดยศูนย์วิจัยวัคซีน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย3) วัคซีน Baiya SARS-CoV-2 Vaxชนิด Protein Subunit โดยบริษัท ใบยาไฟโตฟาร์ม จำกัด นอกจากนี้ยังมีวัคซีนซึ่งใกล้เข้าสู่การทดสอบในมนุษย์ระยะที่ 1 คือ วัคซีนโควิด 19 แบบพ่นจมูก ชนิด Adenovirus-basedและ Influenza-based โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ

     และนอกจากการสนับสนุนการวิจัยพัฒนาวัคซีนโควิด 19 ในประเทศรัฐบาลยังได้ให้การสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นอีกหลายแห่งในการผลิตวัคซีนให้มีความพร้อมรองรับการระบาดที่จะเกิดในอนาคตอีกด้วย

     คณะกรรมการได้ร่วมพิจารณาและให้ความเห็นต่อวาระสำคัญ ได้แก่ข้อเสนอเชิงนโยบายการจัดหาวัคซีนในกรณีมีเหตุฉุกเฉินหรือมีเหตุจำเป็น และ (ร่าง) ระเบียบคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ว่าด้วยการส่งเสริม การสนับสนุนเพื่อการจัดหาวัคซีนในกรณีมีเหตุฉุกเฉินหรือมีเหตุจำเป็นซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้การจัดหาวัคซีนในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินและจำเป็นทางสาธารณสุข สามารถดำเนินการได้อย่างทันท่วงทีโดยอาศัยการถอดบทเรียนจากการจัดซื้อวัคซีนในช่วงการระบาดของโรคโควิด 19 ที่ผ่านมาโดยคณะกรรมการได้มอบหมายให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ดำเนินการทบทวน (ร่าง)ระเบียบเพิ่มเติมตามคำแนะนำของคณะกรรมการ เพื่อให้กลไกดังกล่าวสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและรัดกุม เป็นไปตามวัตถุประสงค์และให้เสนอความก้าวหน้าร่างระเบียบที่มีการแก้ไขปรับปรุงเพื่อพิจารณาในการประชุมครั้งถัดไป

     สำหรับนโยบายการเร่งรัดการให้บริการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเร่งสร้างความครอบคลุมของการได้รับวัคซีนในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้นกันโรคที่ลดลงเนื่องจากได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด 19 การผลักดันการให้วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดฉีด (IPV) 2 โดส (ฉีดครั้งละ 1 โดสเมื่อเด็กอายุ 2 และ 4 เดือน) และลดการให้วัคซีนโปลิโอชนิดรับประทาน (OPV) OPV เหลือ 3 ครั้งสำหรับชุดสิทธิประโยชน์ของประชาชนในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเพื่อให้สอดคล้องกับคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกและยกระดับภูมิคุ้มกันของประเทศให้เพียงพอต่อการป้องกันโรคและลดความเสี่ยงในการระบาดของโรคโปลิโอที่จะส่งผลกระทบต่อประเทศทั้งด้านสาธารณสุข และด้านเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวรวมถึงวาระการเร่งสร้างความครอบคลุมของการฉีดวัคซีน HPV ให้กับเด็กหญิงชั้นป.5 รุ่นปีการศึกษา2562 – 2564 ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน HPV เนื่องจากเกิดสถานการณ์วัคซีนขาดคราวทั่วโลกที่เสนอโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข นั้นคณะกรรมการมีมติเห็นชอบตามมติของคณะกรรมการอนุกรรมการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคและมอบหมายให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการโดยด่วน

     นอกจากนี้นายแพทย์นครยังได้รายงานผลการดำเนินงานตามนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563-2565 ซึ่งเป็นการดำเนินการร่วมกันระหว่างหน่วยงานเครือข่ายด้านวัคซีนของประเทศและได้มีการปรับนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติพ.ศ.2566-2570 ใหม่ ให้สอดคล้องกับแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) พ.ศ.2566-2570ซึ่งสถาบันวัคซีนแห่งชาติมีบทบาทเป็นผู้ให้ทุนสนับสนุนการพัฒนาวัคซีนตลอดวงจร

ที่มา : สถาบันวัคซีนแห่งชาติ

วันที่ 2 มีนาคม 2566