UAE เผย!! วัคซีนโควิด 19 ของ Sinopharm ประเทศจีน มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคกว่าร้อยละ 86
📌UAE เผย!! วัคซีนโควิด 19 ของ Sinopharm ประเทศจีน มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคกว่าร้อยละ 86
เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม สื่อวอชิงตันโพสได้รายงาน ประกาศทางการของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) เกี่ยวกับการอนุมัติให้ขยายวงการใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ที่ผลิตโดยบริษัท Sinopharm หลังจากอนุญาตให้ใช้วัคซีนชนิดนี้ในภาวะฉุกเฉินในวงจำกัด (EUA) ในกลุ่มเป้าหมายที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงมากที่สุด นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นมา
โดยผลการวิเคราะห์ข้อมูลประสิทธิภาพเบื้องต้น (Interim analysis) ของ Sinopharm ที่ประเมินจากผลการทดสอบในมนุษย์ระยะที่ 3 ใน UAE พบว่าให้ค่าการป้องกันโรคของวัคซีนที่ร้อยละ 86 นอกจากนั้นยังพบว่าวัคซีนมีความปลอดภัยสูงและไม่ก่อให้เกิดอาการข้างเคียงที่รุนแรง อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพในการป้องกันความรุนแรงของโรคในระดับปานกลางถึงมาก ได้ถึงร้อยละ 100
ผลการประเมินที่ได้นี้นำไปสู่ความเชื่อมั่นต่อวัคซีนของ Sinopharm และการมีมติอนุญาตให้มีการขยายวงการใช้วัคซีนในครั้งนี้ นับเป็นความมุ่งหวังที่ UAE จะใช้ในการควบคุมและป้องกันโรคโควิด 19 ในประเทศ จากประสบการณ์เลวร้ายนับตั้งแต่ปีเริ่มมีการระบาดที่ทำให้ UAE มีจำนวนผู้ป่วยสะสมถึง 180,000 ราย และเสียชีวิตกว่า 6,000 ราย แม้ขณะนี้จำนวนผู้ป่วยยืนยันจะไม่ได้มีจำนวนที่สูงหากเทียบกับก่อนหน้านี้ แต่ก็มีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อสูงขึ้นจากจำนวนหลักร้อยในเดือนสิงหาคมเป็นหลักพันคนในเดือนพฤศจิกายน
การเผยข้อมูลในครั้งนี้จึงนับเป็นการประกาศจุดยืนที่สำคัญให้กับวัคซีนของจีน ซึ่งอาจถูกพิจารณานำไปใช้ในประเทศที่กำลังพัฒนาอีกหลายประเทศทั่วโลก เนื่องจากข้อได้เปรียบในเรื่องการบริหารจัดการวัคซีนและระบบลูกโซ่ความเย็นที่ไม่มีความซับซ้อน สามารถเก็บได้ในอุณหภูมินตู้เย็นปกติ (2-8 C) เทียบกับวัคซีนชนิดอื่นๆ เช่น วัคซีนของ Moderna และ Pfizer-BioNTech’s ที่จำเป็นต้องจัดเก็บในอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพและการบริหารจัดการที่เหมาะสมสำหรับประเทศที่กำลังพัฒนา เห็นได้จากขณะนี้ที่ประเทศโมรอคโคได้ทำการสั่งซื้อวัคซีนของ Sinopharm แล้วกว่า 10 ล้านโด๊ส
เป็นที่ทราบแล้วว่าวัคซีนที่ผลิตโดย Sinopharm ได้รับอนุญาตให้ใช้ในภาวะฉุกเฉินในประเทศจีนเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา จากการให้ข้อมูลโดยผู้บริหารระดับสูงบริษัท Sinopharm เผยว่า ขณะนี้จีนได้มีการใช้วัคซีนที่ผลิตโดย Sinopharm กับประชาชนในประเทศแล้วกว่า 1 ล้านคน โดยฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมาย เช่น ประชาชนจีนที่มีความจำเป็นต้องเดินทางระหว่างประเทศ หรือผู้ที่ต้องไปปฏิบัติหน้าที่ในต่างประเทศ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการวิจารณ์เกี่ยวกับการนำวัคซีนมาใช้ในประเทศเป็นวงกว้างก่อนที่ผลการทดสอบวัคซีนในระยะที่ 3 จะเสร็จสมบูรณ์ แต่เป็นที่แน่ชัดว่าเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน Sinopharm ได้ยื่นขออนุมัติวัคซีนขั้นสุดท้ายกับหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของประเทศจีนแล้ว
ขณะนี้ วัคซีน Sinopharm อยู่ในระหว่างการทดสอบในมนุษย์ระยะที่ 3 ในอีกหลายประเทศ ได้แก่ อียิปต์ บาห์เรน เปรู และอาร์เจนตินา เช่นเดียวกับวัคซีนร่วมสัญชาติจีน ที่พัฒนาโดย Sinovac Biotech ที่อยู่ระหว่างการทดสอบในบราซิล อินโดนีเซีย และตุรกี ซึ่งคาดว่าจะมีการประเมินประสิทธิภาพวัคซีนในเร็ววัน
ดังนั้น วัคซีนที่พัฒนาและผลิตโดยประเทศจีนจึงนับเป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่น่าติดตามภายในระยะเวลาอีกไม่กี่เดือนต่อจากนี้ ท่ามกลางกระแสการระบาดระลอกใหม่และความกังวลต่อเศรษฐกิจ สังคม และการใช้ชีวิตของประชาชนในประเทศไทย และประชากรทั่วโลก
เรียบเรียงข้อมูล: NVI Public Affairs Team
วันที่: 12/12/63