กรมควบคุมโรค ลงนามบริษัท ไฟเซอร์ จัดซื้อวัคซีนเพิ่ม 10 ล้านโดส

Home   >   ข่าวสาร   >   ข่าวประชาสัมพันธ์   >   กรมควบคุมโรค ลงนามบริษัท ไฟเซอร์ จัดซื้อวัคซีนเพิ่ม 10 ล้านโดส

👁️ เข้าชม 1

📌กรมควบคุมโรค ลงนามบริษัท ไฟเซอร์ จัดซื้อวัคซีนเพิ่ม 10 ล้านโดส

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผยลงนามจัดซื้อไฟเซอร์เพิ่ม 10 ล้านโดส จากของเดิม 20 ล้านโดส รวมเป็น 30 ล้านโดส พร้อมเผยความคืบหน้าวัคซีนแลกเปลี่ยนไทย-ภูฏาน 1.5 แสนโดสถึงไทยแล้ว ส่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบก่อนกระจายต่อไป

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นสักขีพยานในการลงนามสัญญาวัคซีนโควิด19 ชนิด mRNA ของไฟเซอร์ ระหว่างกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และ บริษัท ไฟเซอร์ ประเทศไทย โดยจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์เพิ่มเติมจำนวน 10 ล้านโดส จากที่ได้ลงนามจัดซื้อจำนวน 20 ล้านโดสไปแล้วเมื่อวัน 20 กรกฎาคม 2564 รวมวัคซีนไฟเซอร์ที่จะเข้ามาในประเทศไทยจำนวน 30 ล้านโดส และจะทยอยจัดส่งในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้เป็นต้นไป ซึ่งวัคซีนดังกล่าวเป็นหนึ่งในแผนกระจายวัคซีนของประเทศ เพื่อให้มีวัคซีนแก่ประชากรในประเทศไทย 100 ล้านโดสภายในปี 2564

นายแพทย์โอภาส กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในส่วนความคืบหน้ากรณีรัฐบาลภูฏานแลกวัคซีนกับรัฐบาลไทย ซึ่งเป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ที่ผลิตจากประเทศสวีเดน จำนวน 150,000 โดส ได้มาถึงประเทศไทยโดยสายการบินดรุ๊กแอร์ (Druk Air) เมื่อเวลา 12.40 น. ของวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยช่วงบ่ายวันเดียวกัน มีการนำส่งตัวอย่างวัคซีนให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตรวจคุณภาพและความปลอดภัย คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบ 2-3 วัน เมื่อวัคซีนผ่านการตรวจคุณภาพแล้ว ทางกรมควบคุมโรคจะนำมาจัดสรรให้กับพื้นที่ต่อไป ส่วนกำหนดการในการส่งคืนวัคซีน ประเทศไทยจะทำการส่งคืนวัคซีนภายในไตรมาส 4 ปี 2564

สำหรับการรับมอบวัคซีนครั้งนี้อยู่บนพื้นฐานของการส่งมอบคืนในอนาคต ตามข้อตกลงไตรภาคีระหว่างรัฐบาลภูฏาน รัฐบาลไทย และบริษัท AstraZeneca จำกัด โดยการมอบวัคซีนในครั้งนี้เป็นเครื่องสะท้อนความสัมพันธ์ใกล้ชิดยาวนานระหว่าง 2 ประเทศ พร้อมหวังว่าจะมีความร่วมมือด้านวัคซีนกับทางราชอาณาจักรภูฏาน ต่อไป

****************

จากหน่วยงาน : กองโรคติดต่อทั่วไป/สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค
 วันที่ประกาศข่าว :20 สิงหาคม 2564

Leave a Comment