👁️ เข้าชม 0
สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ร่วมกับ องค์การเภสัชกรรม นำเสนอความก้าวหน้าการผลิตวัคซีน HXP-GPOVac ซึ่งเป็นวัคซีนโควิด 19 ที่วิจัยและพัฒนาขึ้นภายในประเทศ และมีความก้าวหน้ามากที่สุด คาดว่าจะนำมาใช้ในประชากรไทยหลังได้รับการอนุมัติขึ้นทะเบียนในระยะเวลาอันใกล้นี้
วันที่ 10 ส.ค. 66 ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ร่วมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เปิดเวทีเสวนานำเสนอความก้าวหน้าการผลิตวัคซีน HXP-GPOVac ที่วิจัยและพัฒนาขึ้นภายในประเทศ โดยองค์การเภสัชกรรม โดยมีผู้ร่วมเสวนา ได้แก่ นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ดร.ภญ.พรทิพย์ วิรัชวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายชีววัตถุ และรักษาการผู้จัดการโรงงานผลิต(วัคซีน)
นพ.นคร กล่าวถึงนโยบายและยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านวัคซีนของประเทศไทย และการสร้างศักยภาพของประเทศด้านวัคซีนว่า เนื่องด้วยประเทศไทย มีแนวนโยบายที่ชัดเจน เรื่องความมั่นคงด้านวัคซีนที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ในยามจำเป็น ดังนั้นสิ่งสำคัญที่เราจะต้องดำเนินการ คือ การพัฒนาศักยภาพด้านวัคซีนของประเทศให้มีความพร้อมอยู่เสมอ จากสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด 19 ที่ผ่านมา นับเป็นบทเรียนครั้งสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยได้มีการ
ด้าน ดร.ภญ.พรทิพย์ ได้กล่าวถึงนโยบายและบทบาทขององค์การเภสัชกรรม กับการวิจัยและพัฒนาการผลิตวัคซีนโควิด 19 ว่า ในสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด 19 ที่ผ่านมา องค์การเภสัชกรรมได้ผลิตยาต้านไวรัสโควิด 19 ได้แก่ ฟาวิพิราเวียร์ และโมลนูพิราเวียร์ รวมทั้งอุปกรณ์ป้องกันต่าง ๆ เช่น หน้ากากอนามัย ชุด PPE และเจลแอลกอฮอลล์ เพื่อสนับสนุนระบบสาธารณสุขของประเทศไทย และในฐานะผู้ผลิตวัคซีนภาครัฐของไทย องค์การเภสัชกรรมได้พ
วัคซีน HXP-GPOVac ขององค์การเภสัชกรรมเหมาะสำหรับนำมาใช้เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นให้กับคนไทย ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป นอกจากนี้การพัฒนา Platform การผลิตวัคซีนที่มีความพร้อมตั้งแต่ระดับต้นน้ำถึงปลายน้ำขององค์การเภสัชกรรม จะช่วยให้ประเทศไทยมีความมั่นคงด้านวัคซีน พร้อมรับมือกับโรคระบาดที่อาจขึ้นได้ในอนาคต
ที่มา: สถาบันวัคซีนแห่งชาติ
วันที่: 11/8/66